5 วิธีในการค้นหาข้อผิดพลาดด้วยมัลติมิเตอร์
⒈ วิธีการรู้สึก
ใช้ประสาทสัมผัสตัดสินสาเหตุของความล้มเหลวโดยตรง จากการตรวจสอบด้วยสายตา คุณจะพบปัญหาต่างๆ เช่น การหลุด การบัดกรี การลัดวงจร หลอดฟิวส์ที่ขาด ส่วนประกอบที่ถูกไฟไหม้ ความเสียหายทางกล การยกและการแตกหักของฟอยล์ทองแดงบนวงจรพิมพ์ ฯลฯ ; คุณสามารถสัมผัสอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่ ตัวต้านทาน ทรานซิสเตอร์ และบล็อกในตัวได้ และคุณสามารถดูแผนภาพวงจรเพื่อค้นหาสาเหตุของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นผิดปกติได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบด้วยมือได้ว่าส่วนประกอบต่างๆ หลวมหรือไม่ เสียบหมุดวงจรรวมแน่นหนาหรือไม่ และสวิตช์ถ่ายโอนติดขัดหรือไม่ คุณสามารถได้ยินและได้กลิ่นว่ามีเสียงและกลิ่นที่ผิดปกติหรือไม่
⒉ วิธีการวัดแรงดันไฟฟ้า
การวัดว่าแรงดันไฟฟ้าในการทำงานของจุดสำคัญแต่ละจุดเป็นปกติหรือไม่ ทำให้สามารถค้นหาจุดผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว เช่น การวัดแรงดันใช้งานและแรงดันอ้างอิงของคอนเวอร์เตอร์ A/D
⒊วิธีการลัดวงจร
ในวิธีการตรวจสอบคอนเวอร์เตอร์ A/D ที่กล่าวข้างต้น โดยทั่วไปจะใช้วิธีลัดวงจร วิธีนี้มักใช้เมื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อ่อนแอและเป็นไมโคร
⒋ วิธีการตัดวงจร
ถอดชิ้นส่วนที่น่าสงสัยออกจากเครื่องจักรทั้งหมดหรือวงจรยูนิต หากข้อผิดพลาดหายไป แสดงว่าข้อผิดพลาดนั้นอยู่ในวงจรที่ถูกตัดการเชื่อมต่อ วิธีนี้จะเหมาะกับสถานการณ์ที่มีการลัดวงจรในวงจรเป็นหลัก
5. วิธีการวัดองค์ประกอบ
เมื่อข้อบกพร่องถูกจำกัดให้เหลือเพียงส่วนประกอบหนึ่งหรือสองสามชิ้น ก็สามารถวัดได้ทางออนไลน์หรือออฟไลน์ หากจำเป็นให้แทนที่ด้วยอันที่ดี หากข้อผิดพลาดหายไป แสดงว่าส่วนประกอบเสียหาย
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความแม่นยำของมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล
ความแม่นยำของมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลคือการผสมผสานระหว่างข้อผิดพลาดที่เป็นระบบและแบบสุ่มในผลการวัด โดยจะระบุระดับข้อตกลงระหว่างค่าที่วัดได้กับค่าจริง และยังสะท้อนถึงขนาดของข้อผิดพลาดในการวัดอีกด้วย โดยทั่วไป ยิ่งมีความแม่นยำมากเท่าใด ข้อผิดพลาดในการวัดก็จะน้อยลงเท่านั้น และในทางกลับกัน
มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลมีความแม่นยำมากกว่ามัลติมิเตอร์แบบแอนะล็อกแบบอะนาล็อก ความแม่นยำของมัลติมิเตอร์เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญมาก ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและความสามารถในกระบวนการของมัลติมิเตอร์ เป็นเรื่องยากสำหรับมัลติมิเตอร์ที่มีความแม่นยำต่ำในการแสดงมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งอาจทำให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาดในการวัดได้ง่าย