เครื่องตรวจจับก๊าซมีอายุการใช้งานยาวนานเพียงใด โดยมีเซ็นเซอร์เป็นกุญแจสำคัญ
หลายคนมีคำถามนี้เมื่อใช้เครื่องตรวจจับก๊าซ: ใช้งานได้นานแค่ไหน? ผู้ใช้หลายคนเชื่อว่าเครื่องตรวจจับก๊าซสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ที่จริงแล้วแนวทางนี้ถูกต้องหรือไม่?
ที่จริงแล้ว อายุการใช้งานของเครื่องตรวจจับก๊าซส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลัก นั่นก็คือ เซ็นเซอร์
เรารู้ว่าไม่มีเซ็นเซอร์ตัวเดียวที่สามารถตรวจจับก๊าซทั้งหมดและตอบสนองความต้องการทั้งหมดได้ เซ็นเซอร์ที่ใช้สำหรับก๊าซและสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็แตกต่างกันเช่นกัน ซึ่งสามารถแบ่งคร่าวๆ ออกเป็นเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับความเข้มข้นของก๊าซพิษ และเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับความเข้มข้นของการระเบิดของก๊าซที่ติดไฟได้
1. เซ็นเซอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในการวัดความเข้มข้นของก๊าซพิษจะเป็นเซ็นเซอร์ไฟฟ้าเคมีซึ่งทำงานตามหลักการไฟฟ้าเคมี ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานคืออิเล็กโทรไลต์ โดยทั่วไป หลังจาก 2-3 ปีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อิเล็กโทรไลต์จะถูกใช้ไปและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ดังนั้น อายุการใช้งานของเซนเซอร์ไฟฟ้าเคมีคือ 2-3 ปี
2. เซ็นเซอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในการตรวจจับความเข้มข้นของก๊าซที่ติดไฟได้นั้นเป็นเซ็นเซอร์ตัวเร่งปฏิกิริยาการเผาไหม้ โดยมีอายุการใช้งาน 3-5 ปีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นอกจากนี้ อายุการใช้งานของเครื่องตรวจจับก๊าซ (รวมถึงสัญญาณเตือนก๊าซแบบคงที่และสัญญาณเตือนก๊าซแบบพกพา) มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความเข้มข้นที่อุปกรณ์ดังกล่าวสัมผัส
ตัวอย่างเช่น หากเซ็นเซอร์ของเครื่องตรวจจับแอมโมเนียสัมผัสกับแอมโมเนีย 2 ppm อย่างต่อเนื่อง อายุการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งปี (หรือ 2 ppm ต่อปี) หากสัมผัสกับระดับแอมโมเนีย 4 ppm อายุการใช้งานจะอยู่ที่เพียงหกเดือนเท่านั้น ซึ่งทำให้เซ็นเซอร์แอมโมเนียไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในโรงปุ๋ย เนื่องจากความเข้มข้นเฉลี่ยของแอมโมเนียในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 20-30 ppm
ดังนั้น ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของเซ็นเซอร์ก็คือ ยิ่งสภาพแวดล้อมในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นเท่าใด อายุการใช้งานก็จะสั้นลงเท่านั้น ประการที่สอง โครงสร้างของเซ็นเซอร์ส่งผลโดยตรงต่อการใช้เครื่องตรวจจับก๊าซ ดังนั้นการใส่ใจกับสถานะการใช้งานของเซ็นเซอร์จึงหมายถึงการใส่ใจกับความปลอดภัยของเราเอง