วิธีเลือกซื้อกล้องจุลทรรศน์ที่เหมาะกับคุณ
1 ก่อนตัดสินใจซื้อ สิ่งสำคัญคือต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่ามีการสังเกตตัวอย่างใดบ้าง
กล้องจุลทรรศน์แบ่งตามหน้าที่ โดยทั่วไป ได้แก่ กล้องจุลทรรศน์โพลาไรซ์ กล้องจุลทรรศน์โลหะ กล้องจุลทรรศน์ชีวภาพ สเตอริโอไมโครสโคป ฯลฯ การใช้และขอบเขตการใช้งานกล้องจุลทรรศน์ที่มีฟังก์ชันต่างกันก็แตกต่างกันเช่นกัน กล้องจุลทรรศน์โพลาไรซ์ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการวิจัยทางธรณีวิทยาและแร่ธาตุ การวิเคราะห์ และการสังเกตการรวมตัวของคริสตัล เส้นใยประสาท กล้ามเนื้อสัตว์ เส้นใยพืช และรายละเอียดโครงสร้างของฟัน กระดูก เส้นผม และเซลล์ที่มีชีวิต ตลอดจนการวิเคราะห์กระบวนการสูญเสียสภาพธรรมชาติ กล้องจุลทรรศน์โลหะวิทยาส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการสังเกต ระบุ และวิเคราะห์โครงสร้างภายในและโครงสร้างของวัสดุทึบแสงต่างๆ เช่น โลหะ เหมาะสำหรับโรงงาน เหมืองแร่ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานวิจัย กล้องจุลทรรศน์ชีวภาพส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการวินิจฉัย การทดสอบในห้องปฏิบัติการ การสอน การวิจัย ฯลฯ ในด้านสุขภาพ โรงเรียน และสถาบันการวิจัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรชี้แจงก่อนว่าต้องการสังเกตตัวอย่างใด เพื่อที่ผู้ขายจะได้แนะนำกล้องจุลทรรศน์ที่เหมาะกับคุณได้
2 คุณต้องการอุปกรณ์ถ่ายภาพดิจิทัลหรือไม่
ทุกวันนี้ กล้องจุลทรรศน์ดิจิตอลสามารถดูตัวอย่างพร้อมกันบนคอมพิวเตอร์ และสามารถจัดเก็บภาพกล้องจุลทรรศน์ไว้ในคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ไข แก้ไข และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้กล้องจุลทรรศน์ โดยทั่วไปขอแนะนำให้เลือกอุปกรณ์สร้างภาพดิจิทัลเป็นตัวเลือก
3 คุณต้องการเอฟเฟกต์แบบไหนเมื่อใช้งาน
ในปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งใช้กล้องจุลทรรศน์ในการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ แต่พนักงานขายกล้องจุลทรรศน์บางรายไม่จำเป็นต้องเข้าใจผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ดังนั้นผู้ซื้อจึงต้องสร้างความต้องการของตนเอง เช่น ต้องขยายกี่ครั้งจึงจะเห็นรอยแตกที่พื้นผิวของผลิตภัณฑ์ หรือต้องดูโครงสร้างภายในตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็คือ ต้องให้ได้ผลแบบไหน
4 คุณต้องการบริการเสริมประเภทใด
อุตสาหกรรมกล้องจุลทรรศน์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับบริการด้านเทคนิค และต้องมีการบริการหลังการขายและหลังการขาย เงื่อนไขการบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เวลาในการจัดส่ง วิธีการชำระเงิน และการติดตั้ง ล้วนควรค่าแก่การพิจารณาล่วงหน้า